เครื่องในหมู เป็นวัตถุดิบที่หลายคนมักมองข้าม เนื่องจากรสชาติ กลิ่น และเนื้อสัมผัสที่อาจไม่คุ้นเคย ทั้งนี้การนำทุกส่วนของหมูมาประกอบอาหาร ไม่เพียงช่วยให้ใช้วัตถุดิบได้อย่างคุ้มค่า แต่ยังเป็นแนวทางที่ช่วยลดปัญหาขยะอาหาร (Food Waste) ได้อีกด้วย เพราะเครื่องในสามารถนำมาปรุงเป็นเมนูที่อร่อย และมีคุณค่าทางโภชนาการ หากได้รับการปรุงอย่างเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจยังไม่ทราบ ว่าเครื่องในหมูสามารถนำไปปรุงอาหารอะไรได้บ้าง ? ในบทความนี้ พิชชามีท จะพาคุณมาทำความรู้จักกับวิธีการปรุงเครื่องในหมูให้อร่อย และน่ารับประทาน ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกัน
ไขความลับ! วิธีปรุง “เครื่องในหมู” ให้อร่อย มีแบบไหนบ้าง ?
ข้อสำคัญของการรับประทานเครื่องในหมู คือการทำความสะอาดจนไม่มีกลิ่นคาว และสิ่งสกปรกที่อาจตกข้าง เช่น การแช่น้ำเกลือ หรือการตัดแต่งส่วนที่ไม่ต้องการออกไป หากล้าง และเตรียมเครื่องในอย่างถูกวิธี จะช่วยให้เมนูอาหารมีรสชาติอร่อยยิ่งขึ้น และมั่นใจได้ในด้านความปลอดภัย
หลังจากเตรียมวัตถุดิบเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถนำเครื่องในหมูไปประกอบอาหารได้ โดยทั่วไป เครื่องในหมูนิยมปรุงให้สุก ด้วยวิธีการต่าง ๆ ดังนี้
1. การผัด
เทคนิคแรกสำหรับปรุงสุกเครื่องในคือ การผัด เป็นวิธีการทำอาหารที่รวดเร็ว เหมาะสำหรับการเตรียมอาหารทางในชีวิตประจำวัน โดยนิยมนำเครื่องในหมูผัดร่วมกับกระเทียม พริก และซอสต่าง ๆ เช่น ซอสหอยนางรมหรือซอสพริกเผา เพื่อเพิ่มรสชาติ รวมถึงช่วยลดกลิ่นคาวของเครื่องในได้
นอกจากนี้ รสชาติของอาหารจะมีความเข้มข้นกว่าการปรุง ช่วยให้เครื่องในหมูดูดซับรสชาติของเครื่องปรุงต่าง ๆ ทำให้อาหารมีรสชาติกลมกล่อม โดยชิ้นส่วนเครื่องในหมูที่นิยมนำมาผัด ได้แก่
- ตับ: ผัดตับกระเทียม, ตับหมูผัดพริกหวาน และผัดกะเพราตับหมู
- ไส้อ่อน/ไส้ใหญ่: ไส้หมูผัดพริกไทยดำ, ไส้หมูผัดผักกาดดอง และผัดไส้หมูพริกแกง
2. การตุ๋น
การตุ๋นเครื่องในหมู จะเป็นการตุ๋นวัตถุดิบกับน้ำซุป และสมุนไพรต่าง ๆ เช่น โป๊ยกั๊ก และอบเชย เพื่อให้เครื่องในมีความนุ่ม และง่ายต่อการเคี้ยว ทำให้วิธีการปรุงดังกล่าว เหมาะสำหรับทุกช่วงวัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ทั้งนี้ส่วนของเครื่องในที่นิยมนำมาตุ๋น ได้แก่
- ไส้ตัน: ไส้ตันหมูต้มซีอิ๊ว, ไส้ตันหมูตุ๋นเกี่ยมฉ่าย และพะโล้ไส้ตัน
- ม้าม: ม้ามหมูต้มเกลือ และม้ามหมูตุ๋นยาจีน
- หัวใจ: แกงอ่อมหัวใจหมู และสตูว์หัวใจหมู
3. การต้ม
อีกเคล็ดลับทำให้เครื่องในหมูสามารถรับประทานได้ง่ายขึ้น ด้วยการต้ม โดยสามารถนำวัตถุดิบไปต้มในน้ำเดือด พร้อมกับสมุนไพรต่าง ๆ เช่น ข่า ตะไคร้ หรือใบมะกรูด เพื่อดับกลิ่นเหม็นคาว และเพิ่มความหอมไปในตัว รวมไปถึงช่วยรักษาคุณค่าทางโภชนาการ ที่อยู่ในเครื่องในได้อย่างครบถ้วน ทำให้เหมาะสำหรับการบริโภคทุกช่วงวัย นอกจากนี้ การต้มเครื่องในสามารถปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู ได้แก่
- ปอดหมู: ต้มจืดปอดหมู, ปอดหมูต้มเกลือ และต้มแซ่บปอดหมู
- ไส้อ่อน/ไส้ใหญ่: ต้มแซ่บไส้อ่อน, ต้มตือฮวนเกี่ยมฉ่าย และต้มเลือดหมูไส้ใหญ่
4. การย่าง
การย่างเครื่องใน สามารถทำได้ทั้งบนเตาถ่าน และเตาแก๊ส โดยสามารถทาซอสต่าง ๆ เช่น ซอสบาร์บีคิว ซอสหม่าล่า หรือซอสหมักต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความหอม ซึ่งชิ้นส่วนของเครื่องในหมูที่นิยมนำมาย่าง ได้แก่ ไส้อ่อนหมู ไส้ใหญ่หมู ตับหมู และหัวใจหมู เป็นต้น
นอกจากนี้ การย่างเครื่องในไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มรสชาติ และความหอมให้กับเมนู แต่ยังช่วยละลายไขมันส่วนเกินในวัตถุดิบ ทำให้เป็นทางเลือกที่ดี สำหรับผู้ที่ต้องการลดการบริโภคไขมัน อีกทั้งยังช่วยให้เครื่องในมีความกรอบนอก และนุ่มใน ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่น่าสนใจ และแตกต่างจากการปรุงในรูปแบบอื่น ๆ
5. การทอด
มาถึงวิธีการปรุงเครื่องในหมูสุดท้ายกับ การทอด ซึ่งสามารถทอดในน้ำมันร้อน ๆ หรือใช้หม้ออบลมร้อนก็ได้ หลังจากทอดเสร็จแล้ว นำเสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มต่าง ๆ เช่น น้ำจิ้มซีฟู้ดหรือน้ำจิ้มแจ่ว เพื่อเพิ่มรสชาติที่เข้มข้น
นอกจากนี้ การทอดเครื่องใน สามารถเป็นได้ทั้งเมนูทานเล่น หรืออาหารจานหลักในมื้ออาหาร เนื่องจาก ใช้เวลาในการปรุงไม่นานจึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเมนูที่ทั้งอร่อย และรวดเร็วในการเตรียม หากต้องการนำเครื่องในมาปรุงสุกด้วยวิธีทอด วัตถุดิบที่นิยมใช้ ได้แก่
- ไตหมู: ไตหมูทอดกระเทียมพริกไทย, ไตหมูทอดกรอบ และไตหมูทอดน้ำปลา
- กระเพาะหมู: กระเพาะหมูยำทอดกรอบ และกึ๋นสะดุ้งน้ำมัน
หากใครกำลังมองหาเครื่องในหมู ก็ขอแนะนำ พิชชามีท ผู้จัดจำหน่ายสินค้าหมูสด คุณภาพสูง โดยมีการส่งออกเนื้อหมูที่ผ่านมาตรฐาน GHPs และ HACCP ซึ่งทำให้คุณมั่นใจได้ว่า วัตถุดิบหมูทุกส่วนจากเรา มีความปลอดภัย ได้รับการดูแล และตรวจสอบอย่างเข้มงวด เพื่อให้คุณได้รับสินค้าที่สะอาดสำหรับการนำไปปรุงอาหาร
รู้จัก เมนูแปลกจากเครื่องในหมู “ผัดเล่าปี่” ที่ต้องลอง !
หากพูดถึงเมนูพระราชทาน หลายคนอาจนึกถึงไข่พระอาทิตย์ แต่อีกหนึ่งเมนูที่เป็นเมนูโปรดของรัชกาลที่ 9 ก็คือ “ผัดเล่าปี่” โดยปกติต้นตำรับเมนูดังกล่าว มักใช้เนื้อไก่มาทำ แต่ในวันนี้ เราจะปรับเปลี่ยนสูตรมาใช้เครื่องในหมู อย่าง เซี่ยงจี๊ หรือไตหมู ซึ่งมีขั้นตอนการทำ ดังนี้
วัตถุดิบผัดเล่าปี่
- เซี่ยงจี๊ 200 กรัม
- ตับหมู 100 กรัม
- กระเทียม 5-6 กลีบ
- ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำสะอาด 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกป่น ¼ ช้อนชา
- แป้งมันละลายน้ำ 1 ช้อนโต๊ะ
- ผักชีสำหรับโรยหน้า
ขั้นตอนและวิธีทำผัดเล่าปี่
- นำเซี่ยงจี๊ไปแล่ส่วนสีขาวออกให้หมด กับนำตับหมูไปแช่น้ำเกลือ และล้างน้ำเปล่าจนสะอาด พร้อมหั่นวัตถุดิบให้เป็นชิ้นพอดีคำ
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช และนำกระเทียมไปเจียวจนเหลือง จากนั้นนำเซี่ยงจี๊ และตับลงไปผัดด้วยไฟแรงจนสุก
- ตามด้วยซอยถั่วเหลือง ซีอิ๊วขาว น้ำส้มสายชู และน้ำตาลทรายตามลำดับ พร้อมกับผัดทุกส่วนผสมให้เข้ากัน
- เมื่อส่วนผสมทุกอย่างลงตัว ให้นำแป้งมันละลายน้ำ และคนให้เข้ากัน จากนั้นตักใส่ภาชนะ โดยปิดท้ายด้วยโรยผักชี พร้อมเสิร์ฟ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ การพาสำรวจเครื่องในหมูทำอะไรได้บ้าง? พร้อมแนะเมนูสุดสร้างสรรค์อย่าง “ผัดเล่าปี่” ที่จะช่วยให้คุณได้ลองปรุงเครื่องในหมูในเมนูแบบใหม่ ๆ หวังว่าเมนูนี้จะเป็นอีกทางเลือกในการใช้วัตถุดิบให้คุ้มค่า และอร่อยแบบไม่จำเจ
สำหรับผู้ที่สนใจเครื่องในหมู อย่าลืมพิชชามีท โรงงานจำหน่ายเนื้อหมูที่มีประสบการณ์กว่า 30 ปี เรามีชิ้นส่วนหมูหลากหลายให้เลือก และราคาย่อมเยาตามกลไกตลาด หากต้องการสั่งซื้อหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ที่ Line: @pitchameat