อาหารไทย กลายเป็นหนึ่งใน Soft Power ที่ชาวต่างชาติจากทั่วโลกนึกถึง เมื่อได้มาเยือนประเทศไทย ด้วยเอกลักษณ์ของวิธีการปรุงที่หลากหลาย และรสชาติที่ครบรส ไม่ว่าจะเป็น เปรี้ยว หวาน เค็ม หรือเผ็ด ซึ่งมักถูกรวมไว้ในจานเดียว ทำให้อาหารไทยจึงมักติดอันดับต้น ๆ ในการจัดอันดับอาหารโลกจากสถาบันชื่อดัง
อย่างไรก็ตาม เมนูอาหารไทยยอดนิยม ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ต้มยำกุ้ง หรือมัสมั่นไก่เท่านั้น แต่ยังมีเมนูอีกมากมายที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ เช่น “แกงเขียวหวาน” ด้วยรสชาติที่จัดจ้าน ความกลมกล่อม และมีความเผ็ดเล็กน้อย จึงไม่แปลกใจที่แกงเขียวหวาน จะเป็นอีกหนึ่งเมนูที่สร้างความประทับใจให้กับผู้คนทั่วโลก
ดังนั้น เพื่อเอาใจคนรักการทำอาหารประเภทแกง ในบทความนี้ พิชชามีทขอแชร์เคล็ดลับการทำแกงเขียวหวาน โดยการใช้ชิ้นส่วนหมู “สันคอ” ถ้าพร้อมกันแล้ว ตามไปดูกัน
สูตรแกงเขียวหวาน จากชิ้นส่วนหมู “สันคอ” พร้อมวิธีทำแบบละเอียด
แกงเขียวหวาน เป็นเมนูที่มีความยืดหยุ่นสูง ทั้งในเรื่องของการปรุง และการรับประทาน โดยหัวใจสำคัญของการทำเมนูนี้คือการใช้กะทิ และพริกแกงเป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนเนื้อสัตว์ตามความชอบได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว หรือเนื้อปลา
โดยทั่วไป แกงเขียวหวานมักนิยมใช้เนื้อไก่เป็นวัตถุดิบหลัก เพราะมีราคาถูก และสามารถปรุงให้สุกได้ง่าย แต่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานเนื้อหมู เราขอแนะนำวิธีการทำแกงเขียวหวานโดยใช้ “สันคอ” ซึ่งเป็นชิ้นส่วนหมูที่มีเนื้อสัมผัสนุ่ม มันแทรกกำลังดี และสามารถเพิ่มความกลมกล่อมให้กับเมนูได้อย่างลงตัว
ส่วนผสมพริกแกงเขียวหวาน
- พริกขี้หนูสดสีเขียว 10 เม็ด
- พริกชี้ฟ้าเขียว 16 เม็ด
- หอมแดง 50 กรัม
- รากผักชี 3 กรัม
- ยี่หร่า 1 กรัม
- ลูกผักชี 2 กรัม
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- กะปิ 1 ช้อนชา
- ข่า 5 กรัม
- ตะไคร้ 5 กรัม
- กระเทียม 16 กรัม
- ผิวมะกรูด ½ ช้อนชา
- พริกไทยเม็ด 12 เม็ด
ส่วนผสมปรุงแกงเขียวหวาน
- ชิ้นส่วนหมูสันคอ 350 กรัม
- หัวกะทิ 150 กรัม
- น้ำกะทิ 300 กรัม
- น้ำปลา 50 กรัม
- มะเขือพวง 50 กรัม
- มะเขือเปราะ 80 กรัม
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกชี้ฟ้าแดง 30 กรัม
- ใบโหระพา 20 กรัม
- เกลือ ½ ช้อนโต๊ะ
วิธีทำพริกแกงเขียวหวาน
- เริ่มต้นด้วยการนำเมล็ดยี่หร่าไปคั่วในกระทะ ด้วยไฟอ่อนจนมีกลิ่นหอม เพื่อเพิ่มความหอมให้กับพริกแกง
- หั่นพริกชี้ฟ้าครึ่งหนึ่งเพื่อนำเมล็ดออก และเตรียมพริกชนิดอื่น ๆ ไว้
- นำพริกทั้งหมดมาโขลก หรือปั่นรวมกับเกลือจนละเอียด
- ใส่ส่วนผสมอื่น ๆ เช่น กระเทียม หอมแดง ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด และกะปิลงในครก จากนั้นโขลก หรือปั่นต่อจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันเป็นเนื้อเดียว เป็นอันเสร็จ
- หากยังไม่ต้องการนำพริกแกงเขียวหวานไปปรุงอาหารทันที ให้เก็บใส่ในภาชนะที่ปิดมิดชิด และแช่ตู้เย็นเพื่อรักษาความสดใหม่
ขั้นตอนการปรุงแกงเขียวหวาน
- ตั้งหม้อ หรือกระทะก้นลึกบนไฟกลาง จากนั้นเติมหัวกะทิลงไป เคี่ยวจนกะทิแตกมัน เพื่อให้ได้ความหอมมันของกะทิ
- ใส่พริกแกงเขียวหวานลงในหม้อ แล้วเคี่ยวต่อจนมีกลิ่นหอม จากนั้นใส่ชิ้นส่วนหมูสันคอหั่นชิ้นพอดีคำลงไป ผัดจนหมูสุกทั่ว
- เติมหางกะทิลงไปในหม้อ คนให้ส่วนผสมเข้ากัน แล้วปล่อยให้เดือด
- ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และเกลือ ตามลำดับ คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันดี และปรับรสตามชอบ
- ใส่ผักที่เตรียมไว้ เช่น มะเขือเปราะ และมะเขือพวง ลงไปในหม้อ ต้มต่อจนผักสุกดี และเนื้อนุ่ม
- ปิดไฟ และทำการโรยใบโหระพา และพริกชี้ฟ้าแดง เพื่อตกแต่งให้สวยงาม เป็นอันเสร็จพร้อมเสิร์ฟ
หากใครกำลังมองชิ้นส่วนหมู นำมาทำแกงเขียวหวาน ขอแนะนำ พิชชามีท ผู้จัดจำหน่ายเนื้อหมูคุณภาพ ที่มีให้คุณคัดสรรผลิตภัณฑ์จากหมูอย่างมาก เช่น สันนอก สันใน เครื่องในหมู หรือสินค้าแปรรูปจากหมู
เผยทริคการทำแกงเขียวหวานจากชิ้นส่วนหมู “สันคอ” ให้อร่อย
การทำแกงเขียวหวานให้อร่อย และน่ารับประทาน มีเคล็ดลับที่ผู้ทำต้องรู้อีกมากมาย ดังนี้
-
ใช้กะทิสด
แกงเขียวหวาน จะอร่อยยิ่งขึ้นหากใช้กะทิสด ยิ่งคั้นจากลูกมะพร้าวเลยยิ่งดี หรือซื้อจากร้านค้าในตลาดสดที่ขายน้ำกะทิ นอกจากนี้ ควรเคี่ยวกะทิให้แตกมันอย่างพิถีพิถัน เพื่อเพิ่มความเข้มข้นให้กับน้ำแกง
-
เลือกเนื้อหมูคุณภาพ
การเลือกชิ้นส่วนหมูสันคอที่มีมันแทรกเล็กน้อย จะช่วยเพิ่มความนุ่ม และรสชาติให้กับเมนูได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งนี้ หากต้องการเลือกเนื้อหมูที่มีคุณภาพ ควรสังเกตลักษณะสำคัญ ได้แก่ เนื้อสีชมพูสดใส ไม่มีจุดช้ำหรือสีคล้ำ กลิ่นหอมธรรมชาติ และมีไขมันแทรกกระจายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้เนื้อหมูที่เหมาะสมสำหรับการปรุงอาหาร
-
พริกแกงเขียวหวานสดใหม่
พริกแกงเขียวหวานที่ทำสดใหม่ จะให้รสชาติ และกลิ่นหอมมากขึ้น ซึ่งก่อนนำไปทำแกงเขียวหวาน ควรนำเครื่องพริกแกงไปผัดให้มีกลิ่นหอม เพื่อดึงรสชาติที่แท้จริงของเครื่องพริกแกงออกมา
-
ปรุงรสเค็มไว้ก่อน
แม้จะชื่อแกงเขียวหวาน แต่จริง ๆ แล้ว รสชาติของเมนูดังกล่าว จะมีรสเค็มนำ ทั้งนี้ การใช้น้ำปลาควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ที่บ่งบอกถึงน้ำปลาแท้ เพราะการเลือกใช้น้ำปลาปลอม อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพของผู้บริโภค
-
การตกแต่ง
หากต้องการเพิ่มความสวยงามให้อาหาร ควรใส่ใบโหระพา และพริกชี้ฟ้าแดงลงไปก่อนเสิร์ฟด้วย เพื่อเพิ่มสีสัน และกลิ่นหอม พร้อมจัดเสิร์ฟคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ หรือขนมจีนเพื่อความอร่อยที่ลงตัว
เป็นอย่างไรกันบ้าง กับการพาทำเมนูแกงเขียวหวาน จากชิ้นส่วนหมูสันคอ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจ และอยากลองทำเมนูนี้ด้วยตัวเอง หากคุณกำลังมองหาเนื้อหมูคุณภาพ ก็อย่าลืมพิชชามีท จากประสบการณ์กว่า 30 ปี เราการันตีคุณภาพของเนื้อหมู ที่ปลอดภัยไร้สารตกค้าง หากสนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line@: pitchameat