บทความ

“คากิ” กับสารพัดประโยชน์ ที่คุณคาดไม่ถึง

คากิ

“คากิ” มีที่มาจากภาษาจีน ซึ่งเป็นภาษาจีนแต้จิ๋วว่า ตือคากิ แปลว่า เท้าและขาของหมู แต่คนมักเรียกสั้น ๆ ว่า คากิ และเมื่อใช้คำนี้ไปนาน ๆ คำว่า คากิ กลายมามีความหมายแคบลง คือหมายถึงเฉพาะเท้าหมูที่เป็นอาหารเท่านั้น เป็นส่วนที่สับออกจากขาหน้าหรือขาหลัง มีกระดูก เอ็น และหนัง

“คากิ” หรือ “ตือคากิ” เป็นชิ้นส่วนหมู ที่ทำได้สารพัดเมนู ไม่ว่าจะเป็น ข้าวขาหมูคากิ เมนูที่คุ้นหน้าคุ้นตาคนไทยมากที่สุด เพราะไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน ทั้งหน้าตลาด หน้าโรงเรียน หรือร้านอาหารต่าง ๆ ก็มีเมนูที่ทำจาก คากิ เยอะแยะเต็มไปหมด นอกจากนี้ ยังนิยมนำมาทำต้มยำคากิ ผัดกะเพราคากิ ไข่พะโล้คากิ คากิถั่วดำ คากิตุ๋น และอีกสารพัดเมนูจาก “คากิ”

หลายคนอาจจะเคยสงสัยว่า แล้ว “ขาหมู” กับ “คากิ” คืออันเดียวกันหรือไม่? หรือ 2 อย่างนี้มันคือคนละส่วนกันแน่? วันนี้เราจึงพาทุกคนไปทำความเข้าใจว่า คากิและขาหมูนั้นเหมือนหรือต่างกันแน่!

สำหรับ “ตือคากิ” นั้นจะมีชิ้นใหญ่ เพราะรวมส่วนที่เป็นขาหมูไปจนถึงเท้าหมู คนที่นำไปประกอบเป็นเมนูต่าง ๆ จึงนิยมตัดเป็น 2 ท่อนเพื่อให้ง่ายต่อการทำอาหาร โดยคากิ คือ เท้าหมูที่มีข้อเยอะ ๆ ส่วนขาหมู คือ ต้นขาถึงเหนือข้อของหมู จึงขอสรุปว่า คากิ และ ขาหมูนั้น แตกต่างกัน

ซึ่งในสมัยอดีต คนจีนนิยมทำอาหารทั้งต้ม ผัด ตุ๋น ฯลฯ จากคากิ ส่วนในบ้านเราเมนูขาหมูและคากิที่นิยมมากก็เป็นคากิพะโล้ ขาหมูพะโล้ ที่ได้กล่าวไปข้างต้น แต่การรับประทานคากิบ่อย ๆ ก็อาจจะต้องระวังเรื่องไขมันที่อยู่ในส่วนของคากิ อาหารอร่อยก็จริง แต่สุขภาพของเราก็ต้องมาเป็นความสำคัญ

แต่เชื่อหรือไม่ว่า หนังหมูและเอ็นที่แทรกอยู่ในคากินั้น เป็นส่วนที่มีคอลลาเจนสูง เหมาะกับคนที่ต้องการบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง ไร้ริ้วรอย และบำรุงโคนผมให้แข็งแรง

คากิหมู ตรงที่เป็นเหมือนวุ้นนิ่ม ๆ คือ คอลลาเจน (Collagen) ธรรมชาติที่มีอยู่มาก ซึ่งเป็นคอลลาเจนที่ดูดซึมง่าย นำไปใช้ซ่อมแซมเซลล์ได้โดยตรง การจะใช้ร่างกายดูดซึมคอลลาเจนได้ดีที่สุดนั้นคือต้องกินควบคู่ไปกับวิตามินซี เพราะวิตามินซีจะช่วยดึงคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายได้ ดังนั้น หลายคนจึงนิยมทำน้ำจิ้มซีฟู้ดใส่น้ำมะนาวสด ๆ กินกับคากิ นอกจากประโยชน์นี้ ยังช่วยดับความเลี่ยนได้อีกด้วย

นอกจาก “คากิ” ในประเทศไทย ที่เราเห็นการตุ๋น หรือตักมาสับขายบนข้าวขาหมูแล้วนั้น ที่ต่างประเทศก็ไม่น้อยหน้า เพราะ “คากิ” ก็เป็นเมนูยอดฮิต และอร่อยขึ้นชื่อไม่แพ้ที่ประเทศไทยเช่นกัน

วันนี้จะพาทุกคน ไปบุกตลาดปารีส ที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งข้างทางนั้นมีร้านที่ขายคากิ เรียกว่า Au Pied de Cochon (โอ-ปิ-เย่-เดอ-โค-ชง) แปลให้ถูกต้อง ก็คือ กีบเท้าของหมู หรือ คากิ นั่นเอง

โดย คากิ หรือ Au Pied de Cochon ที่ปารีสนี้ทำให้สุกด้วยวิธีนึ่งก่อน แล้วเอาคลุกแป้งบางเบาเอาไปทอด โรยด้วยผงวิเศษเจือพริกฉุนคาเยนป่นและเกลือเค็มผง รับประทานกับ ซอสข้นเข้ามัสตาร์ด แนม ปอม ฟริต มันฝรั่งทอดและก็ผักสด

อีกเรื่องราวที่ “แปลก” แต่ “จริง” หลายคนให้เคล็ดลับในการเลือก “คากิ” รวมถึง “ขาหมู” โดยบอกว่า ถ้าหมูที่เป็นหมูธรรมชาติ ให้เลือกหมูที่ “ขาหน้า” เพราะต้องใช้แรงในการคุ้ยอาหาร เศษดินต่าง ๆ ทำให้ออกแรงเยอะกว่า รสชาติอร่อยกว่า

สำหรับ หมูฟาร์ม แนะนำให้เลือก “ขาหลัง” เพราะว่าต้องรับน้ำหนักจากการผสมพันธุ์ของหมู ทำให้ขาหลังนั้นได้ออกกำลังมากกว่าขาหน้า จึงมีรสชาติอร่อยกว่า

แต่ถ้าอยากได้ “คากิ” ที่มีคุณภาพ เราขอแนะนำ “พิชชามีท” ซึ่งเรามีบริการจัดส่งเนื้อหมู ขายส่งเนื้อหมู มาตรฐาน GMP&HACCP ระดับสากล ให้คุณมั่นใจได้กับเนื้อหมูพิชชามีท ด้วยเนื้อหมูสดใหม่คุณภาพ ปลอดสารเร่งเนื้อแดง สะอาดสุด ทุกขั้นตอน บริการด้วยใจทุ่มเท ในราคาที่ย่อมเยาว์ และคำนึงถึงคุณภาพที่ต้องมาเป็นอันดับ 1 มากไปกว่านั้นยังเก็บได้นานและตัดแต่งได้ง่ายตามความต้องการของธุรกิจคุณ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง