บทความ

ทำความรู้จักกับ เนื้อหมู ชิ้นส่วนต่าง ๆ

เนื้อหมู

หากพูดถึงการปรุงอาหาร วัตถุดิบหลักชิ้นแรกที่คิดก็คงหนีไม่พ้น เนื้อหมู เพราะสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายวิธี ซึ่งชิ้นส่วนต่าง ๆ ของเนื้อหมูล้วนมีรสชาติ และเนื้อสัมผัสเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนี้ เนื้อหมูยังมีคุณค่าทางโภชนาการด้านอาหารมากมาย และมีคุณประโยชน์อื่น ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย พิชชามีท จะพาทุกคนมาทำความรู้จักเนื้อหมูชิ้นส่วนต่าง ๆ ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร

ชิ้นส่วนต่าง ๆ ของ เนื้อหมู แตกต่างกันอย่างไรบ้าง

เนื้อหมูถือเป็นวัตถุดิบยอดฮิตในการนำมาประกอบอาหาร มีกลิ่นหอม รสชาติอร่อย และมีประโยชน์มากมาย เช่น โปรตีน ไขมัน วิตามิน A วิตามิน B1 วิตามิน B3 ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก เป็นต้น ซึ่งแต่ละชิ้นส่วนแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ไปอ่านกันเลย

  • สันในหมู

เป็นเนื้อหมูส่วนที่มีไขมันน้อย และมีความนุ่มมากที่สุด นิยมนำมาประกอบอาหารหลากหลายชนิด แต่ที่นิยมมากที่สุดก็คือ เมนูหมูแดง เพราะจะได้เนื้อเส้นที่สวย และหั่นเป็นชิ้นได้ขนาดกำลังดี นอกจากนี้ยังสามารถนำมาหมักเป็นหมูนุ่มสำหรับ เมนูสุกี้ ได้อีกด้วย

  • สันนอกหมู

เนื้อส่วนนี้จะมีความแน่นกว่าสันใน แต่ไม่กระด้างเท่าเนื้อส่วนสะโพก ซึ่งสันนอกหมูเป็นเนื้อหมูส่วนที่มีไขมันน้อย จะมีมันคลุมบริเวณด้านนอก เหมาะแก่การนำไปประกอบอาหาร เช่น เมนูสเต็กหมู หมูทอด หมูปิ้ง หรือหมูสะเต๊ะ

  • เนื้อสะโพก

เป็นชิ้นส่วนที่มีความเหนียวมากที่สุด เหมาะที่จะนำมาทำอาหารที่มีการต้มเป็นเวลานาน ๆ หรือเมนูที่ต้องตุ๋นให้เปื่อย เมนูสตูว์ หรือทำแฮม ซึ่งถ้าเป็นร้านขายหมูบางร้าน จะนำเนื้อส่วนสะโพกมาสับรวมกับไขมันหมู ทำเป็นหมูสับ

  • หมูสามชั้น

หมูสามชั้นเป็นส่วนที่มาองค์ประกอบ 3 อย่าง คือ หนัง เนื้อ และมัน สลับชั้นกัน นำมาทำอาหารได้หลากหลายเมนู ทั้งต้ม ผัด แกง ทอด หรือนำมาทำเป็นเบคอน เมนูปิ้งย่าง หรือ เมนูชาบู แต่ที่นิยมมากที่สุดคือการนำมาทำเป็น เมนูหมูกรอบ หมูพะโล้ เป็นต้น

  • สันคอหมู

เป็น เนื้อหมูส่วนที่มีไขมันแทรกอยู่ตรงกลาง นิยมนำมาทำปิ้งย่าง หรือชาบู เพราะเนื้อมีความนุ่ม ชุ่มฉ่ำ ไม่ต้องหมักอะไรมากก็อร่อย ด้วยความที่มีไขมันแทรก ทำให้เนื้อหมูส่วนนี้มีความหวาน และอร่อยกว่าส่วนอื่น

  • คอหมู

เนื้อหมูส่วนที่อยู่บริเวณคอไปจนถึงส่วนคาง จะเป็นเนื้อส่วนที่มีไขมันแทรกอยู่เยอะ เนื้อจะมีความเด้ง นิยมนำมาทำ เมนูคอหมูย่าง ให้ไขมันละลายออกมา จะมีความเกรียม และหอมเป็นพิเศษ

  • ซี่โครงอ่อน

เนื้อติดกระดูก ส่วนที่มีเนื้อติดมาเยอะ มีไขมันแทรก บางคนสามารถเคี้ยวกระดูกไปพร้อมกับเนื้อได้เลย นิยมนำมาทำอาหาร เมนูต้มแซ่บ ต้มยำ

  • ซี่โครงหมู

จะมีลักษณะคล้ายกับซี่โครงอ่อน แต่ตัวกระดูกจะมีความแข็งมากกว่า และเนื้อที่ติดกระดูกจะมีน้อยกว่าส่วนซี่โครงอ่อน นิยมนำมาทำบาร์บีคิว ซี่โครงหมูทอดกระเทียม หรือนำมาต้มเป็นน้ำซุปก็ได้เช่นกัน

  • กระดูกสันหลังหมู

กระดูกสันหลังหมู หรือที่เรียกกันว่า เล้ง เป็นส่วนที่มีเนื้อติดอยู่น้อย ส่วนใหญ่เล้งจะถูกนำมาต้มทำน้ำซุปกระดูกหมู เพื่อให้น้ำซุปมีความหวานแทนการใส่ผงชูรส นอกจากนี้เล้งยังเป็นส่วนที่ได้รับความนิยมนำมาทำอาหาร เมนูต้มเล้งแซ่บ นั่นเอง

  • ขาหมู

สามารถใช้ได้ทั้งขาส่วนหน้า และขาส่วนหลัง ซึ่งเมนูได้รับความนิยมคือ หมูพะโล้ หรือ ข้าวขาหมู แต่สำหรับขาหมูทอด หรือ ขาหมูเยอรมัน จะนิยมใช้ขาหน้ามากกว่าขาหลัง

 

6 วิธีเก็บรักษา เนื้อหมู ให้อยู่ได้นาน ไม่เน่าเสียง่าย

เนื้อหมูเป็นวัตถุดิบที่หลายบ้านต้องมีติดตู้เย็น โดยมีวิธีการเก็บรักษาเนื้อหมูให้อยู่ได้นาน ไม่เน่าเสียง่าย แถมยังคงรสชาติ และคุณประโยชน์ไว้เหมือนเดิม จะมีขั้นตอนอะไรบ้าง ไปอ่านกันเลย

  1. เลือกเนื้อหมูที่มีความสด ดูจากสีของเนื้อหมูมีความชมพู ไม่มีกลิ่นคาว กดแล้วไม่มีรอยบุ๋ม
  2. นำเนื้อหมูมาล้างให้สะอาด หรืออาจผสมเกลือลงไปด้วย เพื่อฆ่าเชื้อโรคบนเนื้อหมู
  3. หั่นเป็นชิ้นตามแนวขวาง โดยแบ่งสัดส่วนให้พอดี ทำให้ง่ายต่อการนำไปทำอาหาร
  4. เช็ดเนื้อหมูให้สะอาด ซับเนื้อหมูให้แห้ง
  5. แบ่งเนื้อหมูแต่ละส่วนใส่กล่องพลาสติก ปิดฝาให้สนิท
  6. นำกล่องพลาสติกที่เก็บหมู แช่ในช่องแช่แข็ง เพื่อช่วยชะลอการปนเปื้อนของเชื้อโรคต่าง ๆ และยังคงคุณค่าทางโภชณาการไว้ได้อีกด้วย

สุดท้ายนี้หวังว่าทุกคนจะได้รับสาระน่ารู้เกี่ยวกับ เนื้อหมู และชิ้นส่วนต่าง ๆ ของหมู รวมไปถึงวิธีการเก็บรักษาเนื้อหมูให้อยู่ได้นาน จากพิชชามีท เพราะเรื่องหมูเรารู้จริง ที่สำคัญอย่าลืมเลือกบริโภคเนื้อหมูที่มีความสด สะอาด และได้มาตรฐาน เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน และหากใครที่สนใจอยากสั่งเนื้อหมูคุณภาพดี สั่งได้เลยที่ Line: @Pitchameat ได้เลยน้า

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง