สันในหมู เป็นเนื้อสัตว์ที่ให้สารอาหารประเภทโปรตีน จัดอยู่ในอาหารหลักหมู่ 1 ที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย เชื่อว่าเวลาจะทำอาหารสักมื้อ หลาย ๆ คนคงจะเลือกเนื้อหมู เป็นวัตถุดิบหลักของการทำอาหาร วันนี้ พิชชามีท เลยมีสาระดี ๆ เกี่ยวกับประโยชน์ของเนื้อหมูมาฝากกันในบทความนี้ค่ะ
ประโยชน์ของ สันในหมู คุณภาพเน้น ๆ จัดเต็มไปเลย
เนื้อหมูเป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญและได้รับความนิยมในการนำมาประกอบอาหารมากที่สุด ซึ่งสันในหมูเป็นส่วนที่มีโปรตีนมากกว่าส่วนอื่นแต่กลับมีปริมาณไขมันน้อยที่สุด โดยเนื้อหมูส่วนที่มีไขมันมากที่สุดคือ หมูสามชั้น สันคอหมู และซี่โครงหมู
นอกจากสันในหมูจะอุดมไปด้วยโปรตีนแล้ว ยังเป็นแหล่งของสารอาหารอื่น ๆ อีก เช่น วิตามินบี 1 วิตามินเอ ฟอสฟอรัส และไนอาซีน ซึ่งมีประโยชน์อย่างมาก ดังนี้
- วิตามินบี ช่วยลดอาการเหน็บชา
- วิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา
- วิตามินบี 3 ช่วยในการลดไขมัน ลดการอักเสบของผิวหนัง
- ไนอาซีน ช่วยบำรุงสมอง
- โปรตีน ช่วยสร้างเซลล์เนื้อเยื่อต่าง ๆ ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และมีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย
นอกจากสันในหมูจะให้โปรตีนแก่ร่างกายแล้ว ยังให้สารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต ไขมัน เกลือแร่ วิตามิน เรียกได้ว่าเปี่ยมไปด้วยคุณประโยชน์อย่างแท้จริง หากใครที่อยากลดน้ำหนัก ก็ควรเลือกสันในหมูมาประกอบอาหาร เนื่องจากสันในหมูอยู่ข้างในใกล้กับบริเวณ ตับ เป็นเนื้อล้วน ไม่มีไขมัน และมีสีแดงเข้มกว่าสันนอก ซึ่ง สันในหมู 100 กรัมนั้น สามารถให้พลังงานได้ถึง 140 กิโลแคลอรี่เลยทีเดียว
แนะนำวิธีการเลือก สันในหมู ที่ดีต่อสุขภาพ
การเลือกเนื้อหมูที่ดีในการนำมาประกอบอาหารนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญไม่น้อย เพราะเนื้อหมูที่ดี จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ดีอย่างเต็มที่ตามไปด้วย พิชชามีทเลยจะมาแนะนำ วิธีสังเกตเนื้อหมูสำหรับการนำมาปรุงอาหารง่าย ๆ ดังนี้
- เนื้อหมูที่ดีควรเป็นสีชมพู ไม่ควรเลือกเนื้อหมูที่มีสีแดงจัดมาประกอบอาหารเพราะอาจมีสีผสมอาหารหรือสารปนเปื้อนอยู่ รวมไปถึงเนื้อหมูสีเขียว มีรอยช้ำ เพราะแสดงถึงเนื้อหมูที่ผ่านการค้างคืนมาหลายวันและใกล้เน่าแล้ว
- หนังของหมูที่ดีจะต้องมันวาว ไม่มีผังผืด มันหมูต้องมีสีขาวใส สะอาด ไม่มีขนติด เวลากดลงไปแล้วเนื้อหมูจะต้องเด้งกลับคืน ไม่ทิ้งรอยกดเอาไว้
- เนื้อหมูสดจะมีกลิ่นคาวอ่อน ๆ ไม่ใช่กลิ่นเหม็นคล้ายกลิ่นเน่า
- ไม่มีแมลงต่าง ๆ คอยตอม
ทำความรู้จักเนื้อหมูส่วนต่าง ๆ
อย่างที่ทราบกันดีว่าส่วนต่าง ๆ ของเนื้อหมู สามารถนำมาประกอบอาหารได้ทั้งตัว โดยแต่ละส่วนของหมูก็มีคุณประโยชน์ที่แตกต่างกัน และสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลาย เช่น
-
หัวหมู
ประกอบไปด้วยชิ้นส่วนหลายส่วน เช่น หูหมู คางหมู ลิ้นหมู และแก้มหมู ซึ่งนิยมนำไปทำพะโล้ เนื่องจากหัวหมูจะมีเลือดเป็นจำนวนมาก และกลิ่นเครื่องพะโล้สามารถดับกลิ่นคาวได้
-
หูหมู
เนื้อสัมผัสกรุบกรอบเนื่องจากเป็นกระดูกอ่อน ๆ สามารถนำไปย่างทานกับน้ำจิ้มแจ่ว หรือทำยำหูหมูก็มีคุณประโยชน์ด้วยสารอาหาร ประเภทแคลเซียม คอลลาเจน ช่วยเสริมสร้างผิว ผม และเล็บให้แข็งแรง
-
ลิ้นหมู
เนื้อสัมผัสเหนียวนุ่ม มีแร่ธาตุและวิตามิน นิยมนำไปย่างทาน
-
คอหมู
เนื้อสัมผัสเหนียวนุ่ม มีแร่ธาตุและวิตามิน นิยมไปย่างทานกับน้ำจิ้มแจ่ว คอหมูทอด ซึ่งถือว่าเป็นเมนูยอดนิยมของหลายคน
-
สันนอกหมู
เป็นเนื้อส่วนลำตัวอยู่ติดกับซี่โครงหมู มีมันแทรก มีเนื้อนุ่มแต่ไม่มาก มีคุณประโยชน์ทางด้านโปรตีน นิยมนำไปทำสเต็ก หมูหมักต่าง ๆ
-
สันในหมู
เป็นส่วนที่อยู่ข้างในใกล้กับตับ เป็นเนื้อล้วน ไม่มีไขมันแทรก มีสีแดงเข้ม และ มีเนื้อที่นุ่มกว่าสันนอก มีคุณประโยชน์ทางด้านโปรตีน นิยมนำไปอบ ผัด ทอด ฯลฯ
-
สะโพกหมู
มีคุณประโยชน์ทางด้านโปรตีนและไขมัน เนื้อสัมผัสเหนียว เหมาะสำหรับนำไปตุ๋นหรือต้มนาน ๆ เช่น หมูนึ่งซีอิ๊ว หมูตุ๋น หรือนำไปทำน้ำซุป
-
ขาหน้า
เป็นส่วนที่มีไขมันจำนวนมาก นิยมนำไปทำพะโล้
-
ขาหลัง
เป็นส่วนสะโพกไปจนถึงขาหลัง มีไขมันและเส้นเอ็น นิยมนำไปทำขาหมู หมูพะโล้ ขาหมูทอดกรอบ ต้มยำขาหมู
-
สามชั้น
คือส่วนท้องหมูที่เป็นชั้นไขมัน เนื้อและหนังสลับกัน เป็นส่วนที่มีปริมาณไขมันมากที่สุด นิยมนำไปทำหมูสามชั้นทอดกรอบ หมูสามชั้นรวนเค็ม หมูสามชั้นสไลด์ ปิ้งย่าง ฯลฯ
-
ซี่โครงหมู
เป็นส่วนที่มีเนื้อไม่มาก ไขมันน้อย โดยกระดูกซี่โครงมีทั้งกระดูกซี่โครงและกระดูกซี่โครงอ่อน สามารถนำไปทำได้หลายเมนู ทั้งนำไปต้มเป็นน้ำสต๊อก ทอด อบ อย่างเมนู ซี่โครงหมูอบ ซี่โครงหมูทอด เป็นต้น
สุดท้ายนี้เราก็ได้ทราบถึงประโยชน์ของ สันในหมู ที่มีคุณค่าทางอาหารมากมาย และที่สำคัญ นอกจากเราจะทานโปรตีนที่มีคุณภาพจากเนื้อหมูแล้ว ควรเลือกทานเนื้อหมูที่ สด สะอาด ได้มาตรฐาน อย่างหมูพิชชามีท และทานอาหารให้ครบทุกหมู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงของเรา สามารถแอดไลน์เพื่อสั่งซื้อได้ที่ Line: @pitchameat พร้อมบริการส่งตรงด้วยรถห้องเย็นถึงหน้าบ้านคุณ