บทความ

ล้างหมูไม่ให้คาวใครว่าไม่สำคัญ

ล้างหมู

ปัญหาเรื่องของกลิ่นไม่พึงประสงค์ของเนื้อสัตว์ที่เรานำมาประกอบอาหาร ถือว่าเป็นปัญหาที่ทุกคนพบเจอกันเป็นประจำ โดยเฉพาะเนื้อหมู ที่ปกติจะมีกลิ่นคาวอยู่แล้ว ซึ่งหากทานเนื้อหมูที่มีกลิ่นคาวเข้าไป ก็คงจะทำให้ไม่อยากทานต่ออย่างแน่นอน วันนี้ พิชชามีทเลยมีเคล็ดลับดีๆ ในการล้างหมูไม่ให้คาวมาฝากกัน พร้อมแล้วมาติดตามกันได้เลย

5 วิธีล้างหมูไม่ให้คาว

  1. ใช้น้ำส้มสายชูและแป้งมัน: นำเนื้อหมูล้างด้วยน้ำสะอาด 1 ครั้ง จากนั้นนำไปแช่ด้วยน้ำส้มสายชู ผสมแป้งมันเล็กน้อย ค่อยๆ ล้างทำความสะอาดอย่างน้อย 2-3 นาที จากนั้นนำมาล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง
  2. เกลือป่น: นำเนื้อหมูไปล้างน้ำสะอาด 1-2 รอบ และนำเกลือป่นลงไปขยำกับเนื้อหมู หรือเครื่องใน โดยใช้เวลาขยำประมาณ 30-45 วินาที จากนั้นนำไปล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง แต่ห้ามแช่เนื้อหมูทิ้งไว้ เพราะจะทำให้เนื้อหมูเสียรสชาติ
  3. น้ำซาวข้าว: นำเนื้อหมูมาล้างน้ำเปล่าให้สะอาด จากนั้นนำไปแช่ในน้ำซาวข้าวแช่ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที แต่ไม่ควรนานกว่านั้น เพราะจะทำให้เนื้อหมูเสียรสชาติ เสร็จแล้วนำเนื้อหมูมาล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง
  4. แอปเปิ้ล: นำเนื้อหมูล้างด้วยน้ำสะอาด 1-2 รอบ จากนั้นนำแอปเปิ้ลมาสไลด์บางๆ วางไว้บนเนื้อหมูให้ทั่ว ทิ้งไว้ 10-15 นาที หรือจะนำแอปเปิ้ลไปผัดกับเนื้อหมูก็สามารถดับกลิ่นคาวได้เช่นกัน แถมไม่ทำให้เนื้อหมูเสียรสชาติอีกด้วย
  5. สมุนไพรไทย (ขิง กระเทียม อบเชย พริกไทย): นำเนื้อหมูมาล้างด้วยน้ำสะอาด จากนั้นนำสมุนไพรไทยต่างๆ เช่น ขิง ข่า กระเทียม อบเชย พริกไทย มาบดให้ละเอียด และนำไปหมักบนเนื้อหมูทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที ก็จะทำให้เนื้อหมูไม่มีกลิ่นคาว แถมได้ความหอมของสมุนไพรไทยอีกด้วย

วิธีทำอาหารจากเนื้อหมูให้อร่อยขั้นเทพ

เมื่อได้ทราบวิธีการล้างเนื้อหมูไม่ให้มีกลิ่นคาวกันไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะนำเนื้อหมูมาประกอบอาหาร ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเนื้อหมูนั้นสามารถใช้ปรุงอาหารได้เกือบทุกส่วน พิชชามีทเลยจะมาแยกชิ้นส่วนหมูแต่ละส่วนว่าส่วนนี้มีลักษณะแบบไหน และเหมาะกับนำไปปรุงอาหารแบบใด เพื่อให้ได้รับรสชาติเนื้อหมูได้อย่างเต็มที่

  • หมูสันใน: เป็นเนื้อส่วนที่ดีที่สุดและนิ่มที่สุด ไม่เหนียว เป็นส่วนที่ทำอาหารได้แทบทุกประเภท แต่ไม่ควรใช้ความร้อนสูง เพราะจะทำให้เนื้อยุ่ยหรือเละได้
  • หมูสันนอก: มีลักษณะไม่นุ่มหรือเหนียวจนเกินไป สามารถทำอาหารให้ได้เกือบทุกประเภทเช่นกัน แต่ข้อแนะนำคือ ควรหมักก่อนนำไปประกอบอาหาร เพื่อให้หมูนุ่มและมีรสชาติมากขึ้น
  • หมูสามชั้น: เป็นส่วนที่หลายคนชื่นชอบที่สุด เพราะเนื้อนุ่มแถมยังมีแทรกมันให้ชุ่มลิ้นอีกด้วย ส่วนนี้สามารถนำไปประกอบอาหารได้ทุกวิธี เพราะตัวเนื้อมีรสชาติและความนุ่มในตัวอยู่แล้ว แต่ข้อเสียคือมันค่อนข้างเยอะ และทำให้เลี่ยนได้
  • หมูสันคอ: เป็นส่วนที่มีมันแทรกเยอะและเนื้อละเอียดมาก เนื้อหมูจะมีความนุ่มแต่ยังเด้งสู้ฟัน สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น ย่าง ผัด ทอด เป็นต้น เป็นส่วนที่จะหมักหรือไม่หมักก่อนปรุงก็ได้ เพราะมีรสชาติในตัวอยู่แล้ว
  • สะโพกหมู: ส่วนนี้ถือว่าเป็นส่วนที่เหนียวที่สุด แต่เหมาะสำหรับคนลดน้ำหนัก เพราะไม่มีไขมันปนอยู่เลย ส่วนใหญ่นิยมนำมาต้ม หรือตุ๋น เพื่อให้เนื้อมีความนุ่มให้ได้มากที่สุด และเนื้อส่วนนี้นิยมนำไปแปรรูปเป็นลูกชิ้น ไส้กรอก อีกด้วย หากจะนำมาปรุงสุก แนะนำให้หมักด้วยเครื่องปรุงที่ช่วยทำให้เนื้อหมูนุ่มก่อน
  • เครื่องในหมู: เป็นที่รู้กันว่าเครื่องในหมูแทบจะกินได้ทุกส่วน ส่วนใหญ่นิยมนำมาผัด หรือ ต้ม ผ่านความร้อนจนสุกดี เพื่อให้กลิ่นคาวให้ไปจนหมด ไม่นิยมนำไปย่าง หรือต้มภายในเวลาอันสั้น เพราะจะมีความเหนียว และมีกลิ่นสาป ซึ่งสิ่งสำคัญในการนำเครื่องในหมูไปประกอบอาหารคือ ต้องล้างให้สะอาด ดับกลิ่นคาวด้วยเครื่องสมุนไพรปริมาณมาก ก่อนจะนำมาปรุงสุกและรับประทานได้

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเกร็ดความรู้ที่ทางพิชชามีทรวบรวมมาให้ทุกคนได้นำไปปรับใช้กันดู รับรองเลยว่า หากคุณนำวิธีล้างหมูไม่ให้คาวที่เราแนะนำไปใช้ คุณจะหมดปัญหาเรื่องกลิ่นคาวหมูกวนใจได้อย่างแน่นอน และสำหรับใครที่อยากทานหมูที่มีคุณภาพ ปลอดสารเร่งเนื้อแดง สามารถมาสั่งซื้อหมูพิชชามีทได้ผ่อนช่องทาง LINE: @pitchameat

เรื่องที่เกี่ยวข้อง